โรคฝีดาษลิง สิ่งที่คุณควรรู้

ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพนครธน

บทความโดย :

โรคฝีดาษลิง

โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Mpox) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส Monkeypox ที่อยู่ในกลุ่ม Orthopoxvirus ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่ใกล้เคียงกับโรคฝีดาษหรือโรคไข้ทรพิษ แม้ว่าชื่อจะฟังดูน่ากลัว แต่โรคนี้มักไม่รุนแรงเท่าโรคฝีดาษ โดยผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต ดังนั้นหากมีอาการดังกล่าว หรือพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์


โรคฝีดาษลิง สิ่งที่คุณควรรู้

โรคฝีดาษลิง หรือ โรคฝีดาษวานร (Mpox) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส Monkeypox ที่อยู่ในกลุ่ม Orthopoxvirus ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวที่ใกล้เคียงกับโรคฝีดาษหรือโรคไข้ทรพิษ แม้ว่าชื่อจะฟังดูน่ากลัว แต่โรคนี้มักไม่รุนแรงเท่าโรคฝีดาษ โดยผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับมีตุ่มผื่นตุ่มหนองทั่วตัว และต่อมน้ำเหลืองโต ดังนั้นหากมีอาการดังกล่าว หรือพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์

> กลับสารบัญ


โรคฝีดาษลิง ติดต่อได้ทางไหน

ปัจจุบันมีการระบาดของ โรคฝีดาษลิง สายพันธุ์ Clade 1 ที่กำลังแพร่กระจายในหลายประเทศ ซึ่งสายพันธุ์นี้ มีความรุนแรงมากกว่า สายพันธุ์ Clade 2 ที่เคยระบาดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โรคฝีดาษลิง สามารถเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อจากสัตว์มาสู่คน และมีการติดต่อจากคนสู่คนด้วยเช่นกัน โดยการติดต่อจาก

  • การสัมผัสผิวหนังที่มีรอยโรค (ผื่น) สามารถแพร่เชื้อสัมผัสบริเวณที่ผู้ติดเชื้อ สัมผัสหรือใช้ เช่น เสื้อผ้าผ้าปูที่นอน หรือ ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ ลมหายใจ และ ละอองฝอยจากการสัมผัสแบบเผชิญหน้าเป็นเวลานาน
  • ติดต่อผ่านการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ
  • การติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • การถ่ายทอดทางตรงจากแม่ที่ตั้งครรภ์ ถึงทารกในครรภ์ได้
  • การสัมผัสกับหยดละอองหรือน้ำลายที่ออกมาจากทางเดินหายใจของผู้ป่วยขณะไอหรือจาม (น้อยกว่าวิธีอื่น)

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

อาการของโรคฝีดาษลิง

ระยะฟักตัวของโรคฝีดาษลิงจะอยู่ที่ประมาณ 3-21 วัน นับตั้งแต่วันที่สัมผัสเชื้อจนเริ่มแสดงอาการ โดยระยะเวลาในการฟักตัวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งอาการของโรคฝีดาษลิงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะหลัก ได้แก่

  1. ระยะก่อนออกผื่น (ประมาณ 1-3 วัน หลังจากมีไข้)
    • ไข้สูง เป็นอาการเริ่มแรกที่พบได้บ่อย
    • ปวดศีรษะ อาจปวดมาก
    • ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ คอ และขาหนีบ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรคนี้
    • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ รู้สึกอ่อนเพลีย
    • ปวดหลัง
    • ปวดกระบอกตา
    • เจ็บคอ
  2. ระยะมีผื่น (ประมาณ 1-3 สัปดาห์)
    • ผื่น เริ่มจากใบหน้าแล้วลามไปทั่วร่างกาย ผื่นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับดังนี้
    • ตุ่มแดง ตุ่มเล็กๆ สีแดง
    • ตุ่มน้ำใส ตุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นและใส
    • ตุ่มหนอง ตุ่มมีหนองอยู่ภายใน
    • สะเก็ด ตุ่มแห้งและตกสะเก็ด
    • จำนวนและขนาดของผื่น อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
    • ตำแหน่งของผื่น มักพบที่ใบหน้า ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และอวัยวะเพศ

> กลับสารบัญ


การรักษาโรคฝีดาษลิง

ผู้ป่วยมักหายเองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ การรักษาจึงมุ่งเน้นไปที่การให้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาลดไข้ อาจมีการให้ยาต้านไวรัส โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ยา Tecovirimat, Cidofovir เป็นต้น

> กลับสารบัญ


การป้องกันโรคฝีดาษลิง

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส สัตว์ป่าที่อาจเป็นพาหะของเชื้อ
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ
  • รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ
  • แยกตัวจากผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัย การระบายอากาศ ล้างมือบ่อยๆ
  • สวมใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก
  • การฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิง แนะนำในประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย บุคลากรทางการแพทย์ วัคซีนที่ใช้ในประเทศไทยปัจจุบัน มีชื่อว่า JYNNEOS® โดยแนะนำให้ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 28 วัน และมีการให้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงอีกกรณีหนึ่ง คือการให้หลังสัมผัสโรค (PEP) โดยควรฉีดให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ภายใน 4 วัน หลังสัมผัสโรค และไม่ควรเกิน 14 วัน

> กลับสารบัญ



หากไปในพื้นที่เสี่ยง หรือมีความเสี่ยงควรเฝ้าระวังและสังเกตอาการ 21 วันหลังกลับจากประเทศเขตติดโรค และรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการผิดปกติ สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย



ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย